การเสียค่าโฆษณาที่สูญเปล่าเป็นปัญหาสำคัญในวงการการตลาด แต่คุณจะไม่ตกเป็นเหยื่อในสิ่งนี้ เมื่อมีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ด้วยข้อความที่สามารถปรับแต่งได้ มี 4 ประเด็นสำคัญที่คุณควรคำนึงถึง เพื่อให้คุณสามารถใช้จ่ายกับค่าโฆษณาได้อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า ได้แก่
- แนวทางการทำ Performance marketing แบบองค์รวม
- การทำ A/B testing
- การวิเคราะห์การตลาด
- การสร้าง Engagement อย่างสร้างสรรค์
มาดูประเด็นสำคัญในแต่ละจุดเหล่านั้นกัน:
แนวทางการทำ Performance marketing แบบองค์รวม
ในปัจจุบันนี้ อัตราเฉลี่ยของ customer journey ที่มีส่วนร่วมอย่างน้อย 20 touch points กลุ่มที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของคุณ อาจมีการใช้งานไปมาระหว่างอุปกรณ์และช่องทางต่างๆ หากคุณโฟกัสแค่ช่องทางโฆษณาอันใดอันหนึ่ง คุณอาจจะพลาดจุดสำคัญไป นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมแนวทางการทำ Performance marketing แบบองค์รวมจึงสำคัญต่อคุณ
แนวทางการดำเนินการแบบองค์รวมหมายถึง การดูภาพรวมทั้งหมดของ customer journey ตั้งแต่ที่ผู้ใช้มีการค้นพบไปจนถึงการสั่งซื้อซ้ำกับแบรนด์ของคุณ ส่วนที่หนึ่ง ต้องมีการสร้างข้อความสำหรับแต่ละขั้นตอนของ customer journey และจับคู่กับช่องทางและ/หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลในส่วนกิจกรรมทางการตลาดที่มีการเสียเงิน (paid marketing activities) ของคุณ ด้วยแนวทางแบบองค์รวม คุณจะพัฒนากระบวนการ ซึ่งนำไปสู่การใช้จ่ายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและมีอิทธิพลที่กว้างขึ้น
การทำ A/B Testing
คิดว่าการทำ A/B testing เป็นการสนทนาออนไลน์สำหรับธุรกิจของคุณ การทดสอบนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับผู้ชมของคุณในขณะที่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน, หลักฐานที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินการต่อไปของคุณ ข้อดีอีกอย่างของการทำ A/B testing คือ การสร้างข้อความที่เหมาะสมกับผู้ชมของคุณ จะช่วยให้คุณพบโฆษณาที่ดีที่สุดที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
ด้วยการทำ A/B testing คุณยังสามารถระบุช่องทางการสื่อสารที่ทำงานได้ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับรูปแบบการออกแบบที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับแต่ละกลุ่มลูกค้า ซึ่งส่งผลให้การใช้ต้นทุนลดลง และประสิทธิภาพของแคมเปญที่ดีขึ้น
การวิเคราะห์การตลาด
การวิเคราะห์การตลาดช่วยให้คุณติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและกลยุทธ์ของคุณ และตรวจสอบข้อมูลในแต่ละขั้นตอนของ customer journey
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุณต้องเริ่มด้วยการทำความเข้าใจว่าควรปรับ scale อะไร ให้เหมาะสม ซึ่งหากไม่มีการติดตามที่เหมาะสม คุณจะสูญเสียทิศทางไป นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังติดตามและวัดผลข้อมูลที่ถูกต้อง สิ่งที่ทำให้ข้อมูลนี้มีประสิทธิภาพ คือข้อมูลเชิงลึกว่าส่วนใดทำงานได้ดีที่สุดเพื่อช่วยในการวางแผนในอนาคต ในขณะเดียวกันก็ให้ข้อเสนอแนะที่จะช่วยในการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเชื่อมต่อ Google Analytics กับ Google Ads เพื่อสร้าง custom remarketing lists คุณสามารถสร้าง remarketing lists ที่มีความเฉพาะเจาะจงสูงกับ Google Ads ของคุณ ตามข้อมูล pages viewed, goal completions หรือ Google Analytics segments อื่นๆที่สามารถกำหนดเองได้
การสร้าง Engagement อย่างสร้างสรรค์
เช่นเดียวกับการลดน้ำหนัก คือการรับประทานอาหาร 80% และการออกกำลังกาย 20% ประสิทธิภาพของโฆษณาที่ดี คือเนื้อหา 80% และกลยุทธ์ 20% เนื้อหาที่ดึงดูดคือหัวใจสำคัญของคุณภาพและประสิทธิภาพของโฆษณา
ทุกวันนี้ ผู้คนดูวิดีโอออนไลน์ผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง การเพิ่มขึ้นของสื่อดิจิทัล การใช้สมาร์ทโฟน และความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ทำให้โฆษณารูปแบบวิดีโอเป็นที่นิยมมากขึ้น มันกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเข้าถึงผู้ชมออนไลน์ และมีแนวโน้มที่จะครอบงำในอีกหลายปีข้างหน้า
การโฆษณาด้วยวิดีโอ ผสานสองสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้: การเคลื่อนไหวและเสียง ทั้งสองสิ่งนี้มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดข้อความที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่การมีส่วนร่วมที่ดีขึ้น ในขณะที่โฆษณาแบบรูปภาพหรือข้อความอาศัยการคัดลอก เครื่องหมายวรรคตอน และตัวชี้นำภาพเพื่อสื่อถึงโทนเสียงที่ต้องการ โฆษณาวิดีโอจะใช้การเคลื่อนไหวและเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชม รูปแบบโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการเล่าเรื่องของคุณไปยังผู้ชมเป้าหมาย ด้วยข้อความที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา
สุดท้ายนี้
หากคุณกำลังมองหาเอเจนซี่สำหรับการทำ Performance Marketing ซึ่งจะครอบคลุมทุกสิ่งที่เรากล่าวถึงข้างต้น Ematic เพิ่งเปิดตัวบริการใหม่ของ Performance Marketing เริ่มต้นเพิ่มศักยภาพสูงสุดของการทำ paid channels ของคุณ กับ Ematic
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการใหม่ของเราที่นี่ หรือติดต่อเราโดยตรงที่นี่เพื่อพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ